วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พิธีบูชาไฟของชาวฮินดู

พวงมาลัยของพระศิวะ รับมาบูชา
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน....พบกันอีกแล้วจ๊ะ...เมื่อวานเราได้รับเชิญไปร่วมพิธีบูชาไฟของชาาวฮินดู เขาได้จัดทำพิธีในโบสถ์ที่วัดฮินดู  วัดอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรามาก  นั่งรถยนต์ประมาณ ๑๐ นาทีก็ถึง.....งานนี้เริ่มพิธีตั้งแต่ ๑๙.๐๐ น. ผู้คนถยอยกันไปร่วมพิธี  จึงดูเหมือนว่าคนไม่ค่อยมากนัก เพราะคนส่วนใหญ่ทำงานทั้งวัน โดยเฉพาะผู้ชายต้องทำงานทั้งวัน คงจะไปร่วมงานสายหน่อย จะเห็นแต่ผู้หญิงและเด็กมากกว่าผู้ชาย

นั่งรอทำพิธี
หัวหน้าพรามณ์กำลังร่ายพระเวท
ฉันมีภาพสวย ๆ มาฝากท่านผู้อ่านหลายภาพ  ก็ได้ขออนุญาตเผยแพร่ภาพงานนี้จากพระศิวะแล้วจ๊ะ.....งานนี้ทางสมาคมฮินดูได้เชิญพรามณ์สำหรับทำพิธีมาโดยเฉพาะ  เพื่อทำพิธีพิเศษ ทุกคนก็จะเตรียมถาดสำหรับบูชาไฟไปจากบ้าน  ตกแต่งถาดกันอย่างสวยงามน่าดูชมทีเดียว  แต่งชุดส่าหรีสวย ๆ ทั้งนั้น 

เมื่อเสร็จพิธีบูชาไฟแล้ว ทางคณะพราณ์เขาได้เชิญเราทั้งครอบครัว ให้ไปรับเจิมที่หน้าผากทุกคน รับพานกล้วยและพานผลไม้รวมที่ได้ถวายพระศิวะแล้ว พร้อมด้วยอาหารคาวหวาน พวกเราไม่รับประทานที่นั่นเพราะค่ำมากแล้ว จึงอยากจะกลับบ้านพักผ่อนส่วนตัวบ้าง

แต่ละคนมีถาดเครื่องบูชาส่วนตัว
ขอเชิญชมภาพบูชาไฟซึ่งหาดชมได้ยากภาพสวย ๆ เช่นนี้.....วัดยังไม่เสร็จสมบูรณ์  จึงจัดทำพิธีไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็มีสมาชิกและผู้ศรัทธาชาวศรีลังกาและชาวอินเดียมาร่วมพิธีมากมายทุกครั้งไป.....อาหารในงานนี้พิเศษไม่เหมือนงานอื่น ๆ  แต่ละงานมีอาหารสำหรับเทพเจ้าแตกต่างกันไป

ขอขอบคุณทุกท่าน มาก ๆ  ค่ะ  ที่ได้ติดตาม "บล็อกแปลกแต่จริง" มาโดยตลอด  แล้วพบกันอีกค่ะ....."โอมพระศิวะ".....ข้าพเจ้าขอกราบคารวะแด่องค์เทพเจ้า แห่งศาสนาฮินดูทุกพระองค์

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ปีศาจฝรั่ง (๒)

สวัสดีค่ะ  ท่านผู้อ่านทุกท่าน....ท่านได้อ่านเรื่อง "ปีศาจฝรั่ง ตอน ๑" จบไปแล้ว  รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างคะ....ตื่นเต้นดีเน๊าะ ในเหตุการณ์จริง ๆ น่ะ  มันตื่นเต้นซะจนซื่อบื่อ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำยังไงดี จะทำอะไรก่อนอะไรหลัง  จะสวดมนต์ร่ายคาถาบทไหนก่อนจึงจะดี....ลองสารพัดบท ก็ยังไม่สามารถที่จะจัดการเจ้าปีศาจร้ายฝรั่งได้เลย  เขาคงจะฟังภาษาบาลีไม่รู้เรื่อง เลยไม่กลัวหรือว่าฤทธิ์เดชของมนต์และคาถาอาจจะทำให้พวกเขาเจ็บปวดทรมานมาก  จึงเป็นเหตุให้พวกเขาเกิดโทสะอย่างรุนแรงมากขึ้น.....ฉันเองก็สู้ไม่มีการพักเหมือนกัน  ดูซิใครจะเก่งกว่ากัน......ท่านผู้อ่านลองเดาดูน่ะ  ว่าใครจะชนะ
ถ้าเป็นคนใจอ่อนขี้  ก็ไม่ต้องคิดมากเลย  ติดตามเรื่องราวตอนต่อไปแบบสบาย ๆ  ทำใจเป็นกลางไว้  เดี๋ยวก็จะรู้ว่าใครจะเพียบใครจะเผ่นกันแน่  เจอเหตุการณ์ตื่นเต้นแบบนี้  ถ้าอยู่กันหลายคนก็ยังช่วยกันคิดช่วยกันหาวิธีได้ต่าง ๆ นานา คงจะสนุกน่าดู แต่อยู่แบบคนไทยโดดเดี่ยวแต่ไม่เดียวดายนี่ก็หนักเหมือนกันนะ  เพราะเรื่องผี ๆ  ไม่มีใครเขาเข้าใจกับเรา....แต่เขาก็เชื่อว่ามันมีจริง ก็ยังดีที่เชื่อกัน  เป็นอันว่างานนี้ลุยเดี่ยว

ลูกชายของฉันโดนพวกปีศาจร้ายเล่นงานซะซูบไปเลย.....เห็นไหมว่าผีฝรั่งแกร้ายกาจขนาดไหน  กลางวันแสก ๆ  ยังไม่เกรงกลัวว่าจะโดนพระเจ้าลงโทษ.....หลังจากที่ลูกชายได้รับการเย็บแผลที่จมูกทั้งสองข้างเรียบร้อยแล้ว  ก็เป็นอันว่าเหตุการณ์ตื่นเต้นสยองขวัญได้สงบลง  เพราะว่าพวกปีศาจร้ายทั้งหลาย  ได้ถูกปราบสยบไปแล้ว โดยฝีมือพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกร....บ่ายวันเดียวกันนั้นแหละ  ฉันได้หลับไปด้วยความอ่อนเพลียหมดแรง

ท่านผู้อ่านเชื่อมั้ยคะ..... ว่าพวกผีปีศาจเขามีความอาฆาตพยาบาทยิ่งกว่ามนุษย์ซะอีก  คงจะเป็นเพราะว่าจิตดวงสุดท้ายก่อนจุติจิตจะเกิด เป็นอกุศลจิต เป็นโทสมูลจิต พอปฏิสนธิ (เกิด) จึงมีปฏิสนธิจิตที่ประกอบด้วยโทสมูลจิต ผลของอกุศลกรรมนำไปปฏิสนธิในอบายภูมิ ๔  เกิดเป็นผีปีศาจก็เลยมีอุปนิสัยชั่วร้ายขี้โกรธอาฆาตพยาบาท เพราะจิตได้สะสมสืบต่อมาเช่นนั้น.....ฉันดีใจมากที่เรื่องปีศาจร้ายจบลงได้  แต่ที่ไหนได้  เขาไม่ยอมจบง่าย ๆ อย่างที่ฉันคิด ยังมีต่อตอนสองอีกนะ  หลังจากที่ฉันได้นอนหลับพักผ่อนจนมีเรี่ยวแรงเป็นปรกติแล้ว  คิดในใจว่าจะลุกไปดื่มกาแฟสักถ้วย  พอลุกนั่งเสร็จ.....ฉันแทบช๊อค เพราะเลือดกำเดาออกจมูกข้างขวา ไหลหยดเปื้อนเสื้อแดงเลอะที่หน้าอก เลือดสีแดงเข้มเป็นเลือดดีเสียดายจัง  คว้ากระดาษทิชชู่ได้ก็รีบอูดไว้ก่อน  แต่ก็กั้นไม่อยู่หรอก  มันไหลทะลักเหมือนถังน้ำรั่วยังงั้นแหละ  เสียเลือดไปมากแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะเบาเลย.....ฉันก็เลยพูดคนเดียว ด้วยเสียงดังออกไปว่า  "ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าพวกแกยังไม่ยอมแพ้"  สามีและลูกชายได้ยินเสียงฉันพูด ก็พากันรีบเข้ามาหาฉันที่ห้องนอน  คงสงสัยว่าพูดกับใคร.....ทันใดนั้นก็ต้องตะลึงงัน อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกกัน....ฉันจึงได้บอกสามีและลูกชายว่า ไม่ต้องตกใจนะ  ฉันเจอเข้าให้แล้ว  พวกปีศาจเขาโกรธฉันมาก  ที่ฉันได้เชิญครูบาอาจารย์มาปราบพวกเขา

ปีศาจพวกนี้เขาคงจะโกรธแค้นมาก ๆ ที่พระแม่กวนอิมมาปราบ  คงจะพากันหนีตะเลิดเปิดเปิ้งไปพักใหญ่  คงจะไปคิดหาวิธีเล่นงานพวกเราใหม่อีกรอบ  เขาคงคิดว่า ต้องจัดการคนที่มันชอบขัดขวางความสุขของพวกเขาก่อน ต่อไปจะได้เล่นงานคนอื่นได้สะดวกหน่อย  นี่ฉันก็คิดปรุงแต่งไปเรื่อยเปื่อย ไม่แน่เขาอาจจะคิดดีกว่าฉันก็ได้ เพราะเรื่องของจิตไม่มีใครเข้าไปรู้ของใครได้  แม้แต่จิตของเราเองยังไม่ค่อยจะรู้เลย ถ้าไม่เคยเจริญสติอยู่เนื่อง ๆ  .......ในที่สุดฉันต้องรีบไปหาหมอโดยด่วน เพื่อให้หมอเย็บแผลในจมูกให้  เพื่อที่จะให้เลือดหยุด.....ขอเล่าเรื่องการเย็บแผลในรูจมูกสักหน่อยนะ  ฉันเองก็เพิ่งจะได้สัมผัสด้วยตนเอง  มันเจ็บปวดน่าดูเลยนะ เย็บแบบสด ๆ หายใจก็ไม่ค่อยถนัด แถมชอบไอซะด้วยซิ  แต่ไหนแต่ไรก็ไม่อยากจะไอ พอตอนหมอเย็บจมูก เกิดมีอาการจะไอให้ได้ จึงเกิดอาการสู้กัน  ก็ต้องใช้วิธีหายใจทางปากช่วย  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกั้นไว้นาน ๆ  แล้วปล่อยออกช้า ๆ  ก็คือทำลมปราณนั่นเอง ดีว่าเคยฝึกเป็นประจำอยู่แล้ว วิธีนี้ก็ช่วยคลายความเจ็บปวดได้เหมือนกันนะ.....

พอกลับถึงบ้าน  ฉันไม่รีรอให้พวกปีศาจเขาได้พักเลยล่ะ  รีบเชิญพระแม่กวนอิมพันมือมาอีกครั้งหนึ่ง  ท่านก็มาอีก ตอนนั้นเป็นเวลาดึกแล้ว ประมาณ ๔ ทุ่มเศษ ๆ  พระแม่กวนอิมพันมือได้จัดการปราบแบบไม่ไว้หน้าเลยทีนี้  ท่านเอาจริงด้วย  พวกเขาก็เผ่นกันอีกตามระเบียบ.... แต่ก่อนที่จะเผ่นก็เล่นงานจมูกฉันพังอีกข้างหนึ่ง  ดูซิ....แกอาฆาตขนาดไหน  ในที่สุดฉันก็ต้องไปให้หมอเย็บจมูกอีกในวันรุ่งขึ้น ก็หมดแรงไปอีกครั้ง

นับตั้งแต่นั้นมา  ก็ไม่มีปรากฏการณ์ตื่นเต้นเช่นนี้อีกเลย  เพราะพวกผีปีศาจฝรั่งทั้งหลาย เขาคงจะรู้จักสรรพคุณ สรรพฤทธิ์และสรรพเดชของพระแม่กวนอิมพันเนตรพันกรครั้งนี้แหละ....เป็นอันว่าเรื่องนี้ก็จบลงด้วยการแพ้และเพียบด้วยกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ.....และนับแต่นั้นมา เราก็เลยต้องไปโบสถ์ฝรั่งบ้าง  ถ้ามีเวลาว่าง ๆ  ไปสวดให้ผีฝรั่งฟังกัน และนั่งเจริญสมาธิในโบสน์  เสร็จแล้วก็อุทิศส่วนกุศลให้พวกผีและปีศาจกัน  เมื่อพวกเขามีความสุข เขาก็ไม่ไปเที่ยวรบกวนขอบุญหรือกินเลือดมนุษย์....น่าสงสารพวกผีฝรั่งเน๊าะ  เพราะอดอยากเหลือเกิน  เป็นชาวพุทธถ้าไม่หมั่นฟังธรรม สวดมนต์ภาวนา รักษาศีล ทำบุญทำทาน ก็จะต้องเป็นผีอดอยากเหมือนผีปีศาจฝรั่งได้เหมือนกันนะ...ฉะนั้นจึงไม่ควรใช้ชีวิตอย่างประมาทผ่านไปวัน ๆ

บทความนี้ก็คงจะต้องขอยุติไว้เพียงแค่นี้นะคะ....ขอท่านผู้อ่านใคร่พิจารณาด้วยเหตุและผลว่าสมควรเชื่อหรือไม่  อย่าได้เชื่อโดยปราศจากการพิจารณาไตร่ตรอง   และฉันหวังว่าท่านผู้อ่าน คงจะได้รับประโยชน์และข้อคิดจากบทความนี้พอสมควร.....แล้วพบกันในบทความใหม่ต่อไปนะคะ  

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ปีศาจฝรั่ง (๑)

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน....วันนี้พบกันในเรื่องเร้นลับและตื่นเต้นนะคะ คนขวัญอ่อนก็อ่านได้ค่ะ อ่านแล้วไม่ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องผีปีศาจทั้งหลาย เพราะเหตุว่าการนึกคิดเรื่องผี ๆ  เร่ร่อนเขาอาจจะผ่านเข้ามากระทบกับกระแสจิตของเราในขณะนั้นได้  ก็อาจจะทำให้มีอาการขนลุกขนพอง หรืออาการหนาวจับใจอย่างบอกไม่ถูกอย่างกระทันหันได้....แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะ  เราก็เป็นผีเหมือนกัน แต่เป็นผีที่มีกายหยาบ ซึ่งบางคนมีความน่ากลัวกว่าพวกผีที่มีกายละเอียดซะอีก....จิตที่ไม่มีกายครอง เราเรียกว่า "ผีหรือวิญญาณ" เขาก็มีขันธ์ ๕ เช่นเดียวกับมนุษย์และเทวดา เพราะเหตุว่าเป็นจิตที่ยังอยู่ในกามาวจรภูมิ คือเป็นจิตที่ท่องเที่ยวไปในกาม มีความติดข้อง ต้องการ ยินดีพอใจในรูป  เสียง กลิ่น รสและกระทบสัมผัสทางกาย....ผีหรือวิญญาณพวกนี้น่าสงสารมากกว่า โดยเฉพราะพวกที่ตายด้วยอุบัติเหตุ วิญญาณก็จะเร่ร่อนลำบากมาก  ถ้าใครดวงซวยหน่อย บังเอิญไปเจอผีพวกนี้ตามขอส่วนบุญ แต่ไม่รู้ว่ามีผีตามขอส่วนบุญ  ก็อาจจะไม่สบายโดยกระทันหันได้  บางครั้งก็ต้องไปเสียเงินให้หมอ แต่ก็ไม่หาย พอไปทำบุญแล้วหายอย่างนี้ก็มี....ถ้าใครขยันหมั่นสวดมนต์ ฟังธรรม ประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่เป็นปรกตินิสัย ผู้นั้นก็จะไม่ค่อยประสบปัญหาเรื่องผีตามขอส่วนบุญ  เพราะว่าเขาได้กรวดน้ำแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลอยู่เป็นประจำพวกวิญญาณเขาก็อนุโมทนาได้เหมือนกัน

เรื่องที่จะเล่าวันนี้ไม่ใช่เกี่ยวกับผีธรรมดา ๆ  แต่เป็นผีปีศาจ ขึ้นชื่อว่า "ปีศาจ" ใคร ๆ ก็ต้องกลัวไว้ก่อนล่ะ บางคนอ่านถึงตรงนี้  ก็อาจจะนึกในใจว่า "ขออย่าเจอเลย" ขอบอกก่อนว่าอ่านสบาย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรเลย  บ้านเมืองฝรั่งก็มีผีดุเยอะน่ะ....ถ้าโดนมันสิงแล้วปราบยากมาก ๆ  คนปราบก็จะโดนมันเล่นงานหนักด้วย  แต่ถ้าเราไม่เคยโดนผีมันเล่นงาน  เราก็จะไม่มีทางที่จะรู้จักผีได้หรอก รู้จักกันแล้วก็ไม่ยาก.....เป็นไงค่ะ  ท่านผู้อ่านเคยรู้จัก "ผี" บ้างหรือยัง....พวกเขาน่าสงสารมากเลย เพราะว่าตอนมีชีวิตอยู่มัวแต่ฉลาดทำมาหากินอย่างเดียว ไม่ฉลาดในการสะสม "อริยทรัพย์" พอเป็นผีก็เลยต้องลำบากอดอยาก....ความอดอยากเลยทำให้กลายเป็นผีดุร้าย  อายุมากเข้าก็จะยิ่งแก่กล้าว่ายาก....

เมื่อประมาณ ๖ ปีมาแล้ว ลูกชายของฉัน ได้ไปฝึกซ้อมเล่นกีต้ากับเพื่อน ๆ ที่สถานที่เก็บของใกล้ ๆ โบสถ์ฝรั่ง สถานที่นี้เป็นของโบสถ์  ซึ่งเขาไม่ใช้แล้ว  คนในหมู่บ้านไปขอใช้ได้ชั่วคราว  ลูกชายฉันก็ไปเล่นกีต้ากับเพื่อนที่นั่น  เขาเล่าให้ฟังว่า แต่ละครั้งที่ไปเล่น จะต้องมีการทะเลาะกัน ทำให้ไม่สามารถที่จะฝึกซ้อมได้เลยดังใจ  บางครั้งพอจะลงมือเล่นไฟฟ้าดับเฉยเลย  บางครั้งเพื่อนที่เล่นด้วยกันเกิดอาการปวดศีรษะมากอย่างกระทันหัน.....นับตั้งแต่วันแรกที่ไปซ้อมเล่นกีต้าที่สถานที่แห่งนี้  ลูกชายฉันกลับบ้านด้วยอารมณ์หงุดอย่างไม่มีเหตุผลเลย  จนกระทั่งวันที่สาม....พอกลับถึงบ้านก็ดูเหมือนจะปรกติกว่าทุกวัน เขาได้มานั่งคุยกับพ่อแม่  ขณะที่นั่งคุยกันอยู่ดี ๆ  เลือดไหลออกจมูกข้างหนึ่ง ดูเหมือนกับว่ามันทะลักออกมา เลือดแดงเข้มไหลออกมามากจนเปื้อนเสื้อ  เอาถุงเย็นโป๊ะที่หน้าผากก็ไม่ยอมหยุด  ทั้ง ๆ ที่อากาศช่วงนั้นเป็นฤดูหนาว  ร่างกายแข็งแรงดี....เลือดไหลตลอดเวลาและในที่สุดไหลออกทั้งสองข้าง  ฉันได้พยายามสื่อกับครูบาอาจารย์ให้มาช่วยหยุดเลือด....รู้สึกว่าอาการเริ่มหนักขึ้น ๆ สองชั่วโมงผ่านไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  เลือดยังคงไหลอยู่ หน้าตาเริ่มซีดลง ๆ

โชคดีที่ปู่ฤาษีมาปัดเป่าให้  เลือดหยุดเป็นปลิดทิ้ง  ฉันกับสามีจึงได้พาลูกไปหาหมอที่คลีนิกฉุกเฉินในค่ำวันนั้น  หมอได้ให้ผ้าซับมาอุดจมูกกันเลือดไหลทั้งสองข้าง  ลูกฉันเสียเลือดมาก จนหมดแรงเดินแทบไม่ได้  ต้องหิ้วปีกช่วยกัน เขาเป็นนักกีฬาแฮนบอล เป็นคนเข็มแข็ง  แต่วันนั้นเขาไม่ไหวจริง ๆ หลังจากไปหาหมอมาแล้ว เลือดไม่ไหลอีก  ลูกชายจึงได้เดินจงกรมถวายปู่ฤาษี เป็นการขอบคุณที่ท่านมาโปรด

ฉันได้ตรวจกรรมให้ลูกชาย  สงสัยว่าทำไมถึงเลือดจมูกไหลทั้งสองข้าง โดยไม่มีอาการผิดปรกติมาก่อน
มันเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เขาเป็นเช่นนี้....ได้ตรวจด้วยพลังจิต ก็พบว่ามีปีศาจตนหนึ่งตามเขามาจากสถานที่เก็บของ ๆ โบสถ์ฝรั่ง  เขาโกรธที่ไปใช้สถานที่นั้น  เล่นดนตรีเสียงดังรบกวนและพวกเขาหิวมาก  เมื่อทราบเหตุผลของเขาแล้ว  ฉันก็ได้อธิฐานจิต  ขอบารมีแห่งพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ พระแม่กวนอิมทุกปาง พระแม่มาเรีย ปู่ฤาษี ๑๐๘  หลวงปู่หลวงพ่อ  ตอนนั้นนึกอะไรได้ก็เรียกหมดแหละ   เพราะว่ากำลังแย่แล้วนี่ เราก็ต้องอาศัยท่านช่วยด้วย

ตอนเที่ยงคืนในวันนั้น  เจอหนักอีกรอบ  เลือดจมูกไหลอีกเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าจะหยุดเลย  ฉันเองก็มีพลังไม่พอที่จะจัดการกับเจ้าปีศาจร้ายได้  เขายังโกรธอยู่  คงจะมีหลายตน......ทีนี้เกิดปาฏิหาริย์  หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาฯ ได้นำธาตุกายสิทธิ์ มาวางไว้ให้ที่หน้าต่างห้องนอนฉัน.....ฉันก็ไปรับมา  เอามาวางไว้บนหน้าผากลูกชาย  หลวงปู่มาเสกน้ำให้ดื่ม  เลือดก็หยุดอย่างรวดเร็วน่าอัศจรรย์   ลูกชายหมดแรงเพลียมาก จึงหลับไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น  หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเลือดไหลหนักอีก.....พระแม่กวนอิมปางพันมือได้มาปราบปีศาจร้าย  แล้วท่านก็สั่งให้ไปหาหมออีกครั้ง  พอไปหาหมอ ๆ ได้เย็บแผลในรูจมูกทั้งสองข้างให้  หมอบอกว่าเป็นแผลใหญ่มาก  ไม่เคยเห็นมาก่อน.....ฉันคิดว่าพวกเจ้าปีศาจร้าย คงจะถูกท่านแม่พันมือเล่นงานเรียบร้อยไปแล้วล่ะ  ถึงได้เงียบไป  ก็จริงอย่างที่คิดนะ
หลังจากไปหาหมอกันมาแล้ว รู้สึกว่าจะสงบ  แต่ก็ไม่ได้สงบจริง ๆ หรอก ยังมีอะไรที่ตื่นเต้นอีกจ๊ะ.....
ถ้าอยากรู้ก็รอติดตามตอนต่อไปนะคะ.